กลวิธีในการโกงบนอินเทอร์เน็ตยิ่งนับวันก็ยิ่งมีมากขึ้น เราต้องหมั่นิตดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่ากลโกงบนอินเทอร์เน็ต (Internet Fraud) มีอะไรกันบ้าง
เมื่อเราจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ หาความรู้คลายเครียด หรือเพิ่มอะไรก็ตาม เราจะต้องระมัดระวังผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย ยิ่งในระบบอินเทอร์เน็ตด้วยแล้วผู้ร้ายย่อมมีกลวิธีหลอกลวงที่แยบยล จนบางครั้งเราไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าโดนหลอกแล้ว จะรู้ตัวอีกทีก็ได้รับความเสียหาย เสียเงินเสียทองไปแล้ว ซึ่งจะแก้ไขอะไรก็คงไม่ได้ หรือทำได้ก็อาจจะยากลำบาก ดังนั้นเราต้องรู้เท่าทันกลโกงบนอินเทอร์เน็ต (Internet Fraud) ว่ามีอะไรบ้าง แล้วเราจะป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
กลวิธีในการโกงบนอินเทอร์เน็ตยิ่งนับวันก็ยิ่งมีมากขึ้น เราต้องหมั่นติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่ากลโกงบนอินเทอร์เน็ต (Internet Fraud) มีอะไรกันบ้าง
1. Purchase scams
ผู้หลอกลวงจะทำการสั่งซื้อสินค้าและขอจ่ายด้วยบัตรเครดิต เช่น เมล์มาแจ้งว่าต้องการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจะมียอดเงินที่สูงเพื่อดึงดูดใจผู้ขาย แต่การชำระเงินจะชำระด้วยบัตรเครดิต ไม่เช่นนั้น เขาจะไปสั่งกับเจ้าอื่นแทน จะบอกมาด้วยว่าเขาได้มีการติดต่อผู้ขายไว้หลายที่ และผู้หลอกลวงจะให้ข้อมูลของเขามาอย่างละเอียดเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ และเมือ่เราทำการตกลงรับคำสั่งซื้อและเงื่อนไขแล้ว ทำการส่งสินค้าไปให้กลับไม่ได้รับเงินค่าสินค้านั้น ส่วนมากผู้หลอกลวงจะเป็นชาวต่างชาติ
การป้องกัน
ถ้าเป็นการสั่งซื้อจากชาวต่างชาติต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าบริษัทนั้นๆ มีตัวตนจริงหรือไม่ แล้วถ้าเป็นการซื้อในจำนวนมากๆ ควรทำธุรกรรมผ่านธนาคารไม่ใช่จ่ายผ่านบัตรเครดิต ประเทศที่ติดต่อมาควรระวัง คือ ประเทศไนจีเรีย
2. Work-at-Home fraud
เป็นการหลอกลวงให้ผู้ที่อยากมีธุรกิจเป้นของตัวเอง ประกอบธุรกิจได้ง่ายๆ โดยทำผ่านระบบอินเทอร์เน็ต จะลงโฆษณาเชิญชวนให้มาร่วมขบวนการโดยเอาผลตอบแทนมาล่อตาล่อใจ บางที่ก็โฆษณาว่าได้ผลตอบแทนเดือนละเป็นแสนบาท หรือไม่ก็ได้เป็นพันดอลล่าห์ต่อเดือน โดยที่เราแค่เล่นอินเทอร์เน็ตทุกวัน แต่เราจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าสมาชิก หรือลงทุนร่วมกัน แล้วเขาจะให้ข้อมูล แนะนำวิธีการทำธุรกิจ แต่เมื่อเราลงทุนไปแล้ว กลับไม่ได้รับคำแนะนำใดๆ หรือบ้างก็ให้เราไปหาสมาชิกมาเพิ่มเพื่อจะได้รับผลตอบแทน คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ดังนั้นความเสียหายที่เราได้รับ ก็คือ ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้ และยังต้องเสียเงินค่าสมัครที่ต้องลงทุนไปอีกด้วย
การป้องกัน
ผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตนเองจะต้องตรวจสอบให้ดีว่าธุรกิจนั้นทำอะไร นโยบายการทำธุรกิจชัดเจนโปร่งใสหรือไม่ การจ่ายผลตอบแทนจะจ่ายอย่างไร ถ้าให้เราสมัครก่อนจึงจะทราบข้อมูลเหล่านี้ ก็อย่าไปหลงเชื่อ และไม่มีธุรกิจใดที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันรวดเร็ว
3. Click Fraud
เป็นลักษณะการจ่ายเงินจากการคลิกป้ายโฆษณา (Cost-per-click) ยิ่งคลิกมากยิ่งได้ผลตอบแทนมาก โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่คลิกนั้นสนใจในโฆษณา หรือสินค้านั้นจริงหรือไม่ ถ้าในฐานะที่เราเป็นเจ้าของสินค้านั้นก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาจากการคลิกให้กับเว็บไซต์หรือบริษัทที่ีรับทำโฆษณา โดยไม่รู้เลยว่าคนที่คลิกสนใจในสินค้าเราจริงๆหรือไม่ ทำให้เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก แต่ได้ผลประโยชน์ไม่คุ้มค่า
การป้องกัน
จะลงโฆษณากับเว็บไซต์ใดตรวจสอบดูให้แน่ใจเสียก่อนว่า ระบบของเขานั้นเชื่อถือได้หรือไม่ มีระบบกลั่นกรองผู้ใช้ หรือมีวิธีการดำเนินการอย่างไร
4. International Modem Dialing
เป็นการแอบใช้โมเด็มของผู้อื่น โดยมีลักษณะโฆษณาให้บริการสื่อลามก ภาพโป๊ คลิบโป๊ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต แต่เราจะต้องทำการดาวน์โหลดโปรแกรมบางตัวเพื่อใช้ในการดูสื่อเหล่านั้น เรียกว่า Vuewer หรือ Dialer แต่การทำงานของโปรแกรมจะเริ่มทำงานเมือ่มีการใช้โมเด็ม โดยจะควบคุมการทำงานของโมเด็ม สั่งให้โมเด็มหยุดทำงานและสั่งให้ทำการเชื่อมต่ออีกครั้งแต่เป็นการใช้โทรศัพท์ในต่างประเทศ แล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากที่นั้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูเว็บได้ แล้วผู้หลอกลวงก็จะแอบใช้โทรศัพท์ผ่านโ)รแกรมบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ทางไกลเป็นจำนวนมากโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีผู้อื่นแอบลักลอบใช้โทรศัพท์
การป้องกัน
ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่ม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ควรตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียด และควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์อย่างสม่ำเสมอ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น