วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไขข้อข้องใจ เปิดบริษัทนม ตั้งค่าจ้างเท่าไหร่ดี ? กับเกมส์ MarketGlory

ไขข้อข้องใจ เปิดบริษัทนม กับ บริษัทหนังสือพิมพ์ ค่าจ้างเท่าไหร่ถึงจะกำไร ?

.:: หน้ารวมบทความของเกมส์ MarketGlory ::.

สารบัญบทความเกมส์ MarketGlory

*********************************
   

     สวัสดีเพื่อนๆชาวโซเชี่ยลแคม วันนี้น้องกรีนจะมาชวนสวิงก. เฮ้ยไม่ใช่ล่ะ สำหรับใครที่เล่น Facebook บ่อยๆน่าจะรู้จักน้องกรีนน่ะครับ ที่มาเสนอสวิงกิ้งอะไรเนี้ยละ ผมแทบสำลักช่างกล้าทำไปได้ ใครที่ไม่รู้จักน้องกรีนตามลิงค์ข่าวไปเลยน่ะครับ  >>> น้องกรีน ท้าสวิง  <<< ด้วยความน่ารักใสๆ (รึเปล่า) ที่ยังกับอวตารมาจากป่าหิมพานต์ก็มิปานของน้องกรีน ทำให้มีผู้ใช้บริการมากมายเหลือเกิน ฮ้าๆ

    กลับมาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าครับ เพื่อนๆหลายคนที่กำลังเล่น MarketGlory กันอยู่นั้นผมว่าคงเปิดบริษัทกันได้หลายคนแล้วใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทนม หรือ บริษัทหนังสือพิมพ์ แต่เรื่องสำคัญคือ "จะตั้งเงินเดือนคนที่มาทำงานเท่าไหร่ดี" เงินเดือนเท่านี้จะกำไรมั้ยวะเนี้ย" "ทำไมคนอื่นตั้งราคาแพงจัง" ประมาณนี้ครับ ซึ่งตัวผมก็คิดเหมือนกันครับ เอ..กรุตั้งเท่าไหร่ดีวะเนี้ย จะได้ความกำไรป่าวว่ะ เลยเป็นที่มาของบทความนี้ครับ

วิธีคำนวนกำไรของบริษัทนม


1. ไม่รู่ทำไมครับ ช่วงนี้ค่าจ้าง (Wage) ถีบตัวสูงมากเท่าที่ผมดูตอนนี้มีช่วงถึง 126-127 THB เลยที่เดียว (หมายถึงตอนเรากดเลือกทำงาน Workplaces น่ะครับ) ใครงงก็ดูจากรูปน่ะครับ

ภาพที่ 1 : ค่าจ้างที่ถีบตัวสูงขึ้น
ภาพที่ 1 : ค่าจ้างที่ถีบตัวสูงขึ้น
ช่วงก่อนหน้านี้ยังอยู่ในเรท 108-112 ก็ยังถือว่าแพงเลยครับ ไม่รู้เป็นเพราะการประท้วง 
พรบ. นิรโทษกรรมรึเปล่า (พาดพิงงี้เว็บผมจะโดนปิดมั้ยฟร่ะครับ ฮา) โดยผมตั้งค่าจ้างไว้ที่ 1.58 น่ะครับ โดยจะคิดเป็นค่า Wage เท่ากับ 126.40

ค่าจ้างบริษัทที่ตั้งไว้
ค่าจ้างบริษัทที่ตั้งไว้


2. จากนั้นเข้าไปที่บริษัทนมเราน่ะครับ (วิธีเข้าน่าจะทราบกันหมดแล้วมั้งครับ)  แล้วก็เข้าที่เมนู
Workplaces > Work Register ตามรูปครับ และจะเห็นข้อมูลคนที่ทำงานกับบริษัทเราพร้อมรายละเอียดต่างๆ

ภาพที่ 2 : เมนู work register
ภาพที่ 2 : เมนู work register
3. โดยข้อมูลแต่ละส่วนนั้นคือ

Date : วันที่และเวลาที่คนทำงานกับเรา

Worker : ชื่อคนทำงาน

Productivity : ค่า Product ของคนที่ทำงานกับเรา (ไม่ใช่ผลผลิตน่ะครับ ตอนแรกผมก็เข้าใจผิด ฮา)

Wage : ค่าจ้างรวมทั้งหมดที่เราต้องจ่ายให้คนที่ทำงาน หน่วยเป็นบาท

Taxes : ภาษีหักจากคนที่ทำงานน่ะครับ เราไม่เกี่ยว นั้นคือรวมอยู่ใน 5 บาทแล้ว

ภาพที่ 3 : รายละเอียดคนทำงานบริษัทของเรา
ภาพที่ 3 : รายละเอียดคนทำงานบริษัทของเรา
4. ต่อไปเราก็ไปดูผลผลิตที่ได้น่ะครับโดยไปที่เมนู Inventory > Stocks โดยที่

Finished Product : ชื่อผลิตภัณฑ์

Production Price : ราคามาตรฐานของผลิตภัณฑ์

Stock : จำนวนผลิตภัณฑ์ในบริษัทของเราที่นำไปขายได้ (ในที่นี้คือนมดิบ หรือ Raw Milk)
ภาพที่ 4 : เมนู stocks
ภาพที่ 4 : เมนู stocks
ของเก่าผมมี 0 น่ะครับตรงช่อง Stock แสดงว่า นาย phantom30 นั้นผลิตนมให้ผมได้ 32 ลิตร

5. ต่อมาก็ไปเช็คราคากลางของนมดิบ (Raw Milk) น่ะครับ เข้าไปที่เมนู
Markets > Local Market แล้วก็ไปที่เมนู Raw Milk ตามรูปด้านล่างครับ

ภาพที่ 5 : เมนู raw milk
ภาพที่ 5 : เมนู raw milk
6. จากนั้นด้านล่างจะเห็นข้อมูลสินค้า นมดบ ที่นำมาขายกันน่ะครับ โดยเราก็อิงราคาคนที่ตั้งขายอันแรกเป็นหลัก เนื่องจากระบบจะเรียงจากราคาที่ถูกที่สุดอยู่แล้ว โดยดูที่ช่อง Price ว่ากี่บาทต่อ 1 ลิตร จากตัวอย่างคือ 0.22 น่ะครับ

ภาพที่ 6 : ราคานมดิบในตลาด
ภาพที่ 6 : ราคานมดิบในตลาด
7. หลังจากเราได้ราคาต่ำสุดแล้วเราก็มาคำนวนหากำไรที่เราได้น่ะครับ โดยถ้าหากเราตั้งขายที่
0.22 THB นั้นคือเราจะได้เงิน

0.22 X 32 =  7.04 THB

หักทุนออก นั้นคือ เราจะได้กำไร 7.04 - 5 = 2.04 THB โอ้วววว

ตอนแรกผมตั้งค่าแรง (Wage) 1.56 = 126.40 THB  นึกว่าจะได้กำไรนิดหน่อยครับ แต่ได้ 2 THB หนิก็ถือว่าโอเครครับกับค่าแรงที่สูงขนาดนี้ แล้วยิ่งถ้าค่าแรงที่เราตั้งถูกเราก็ยิ่งได้กำไรมกาขึ้นนั้นเอง (วอนขอให้ค่าแรงมันถูกๆลงหน่อยเห้อ จะแข่งราคาอะไรกันขนาดน้าน T___T)

 สรุปเกี่ยวกับการตั้งค่าแรงของบริษัทนม


            ด้วยเหตุผลกลใดก็ตามตอนนี้ราคาค่าจ้างถือว่าแพงมากๆครับ ในการตั้งราคาค่าจ้างจึงควรคำนวนให้ดีๆว่าตั้งเท่าไหร่ดีหากตั้งแพงก็มีโอกาสที่จะได้คนทำงานเร็วแต่อาจจะกำไรน้อย แต่หากตั้งน้อยๆก็จะได้กำไรเยอะแต่ถ้ามีแต่คนตั้งค่าจ้างสูงๆโอกาสที่คนจะทำงานกับเราก็น้อยลงไปเป้นเงาตามตัวครับ

">

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น